เผยสิว 3 แบบที่วัยรุ่นต้องเจอ! พร้อมเคล็ดลับปราบสิววัยรุ่นให้อยู่หมัด

ช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน จึงส่งผลให้ชาววัยรุ่นหลายคนต้องเผชิญกับปัญหาสิว ซึ่งเป็นเรื่องที่กวนใจไม่น้อยเลยใช่มั้ยล่ะ วันนี้เราเลยจะพามาทำความรู้จักกับสิว 3 ประเภทที่วัยรุ่นต้องเผชิญ พร้อมเคล็ดลับปราบสิวให้อยู่หมัด บอกเลยว่าอ่านจบแล้วผิวหน้าในช่วงชีวิตวัยรุ่นของทุกคนจะกลับมาผ่องใส ไร้ปัญหาสิวกวนใจได้แน่นอน!

สิวเกิดจากอะไร?

สิวเกิดจากปัจจัยภายในร่างกาย 4 ประการหลัก และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดปัญหาสิวเรื้อรังและรุนแรงยิ่งขึ้นได้ โดยมีสาเหตุหลักของการเกิดสิว ดังนี้

1. การอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเกิดจากการหนาตัวขึ้นอย่างผิดปกติของเซลล์หนังกำพร้าชั้นนอกสุด ร่วมกับความผิดปกติของกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ทำให้เกิดการอุดตันบริเวณรูขุมขน และเกิดเป็นสิวอุดตันขึ้น

2. ความผิดปกติของต่อมไขมันที่หล่อเลี้ยงผิวหนัง ทำให้เกิดการสะสมของไขมันบริเวณรูขุมขนที่อุดตันเพิ่มมากขึ้น

3. การสะสมของเชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes (C.acnes) ซึ่งเป็นเชื้อที่อาศัยอยู่บริเวณรูขุมขน ในคนที่เป็นสิวจะมีการสะสมของเซลล์ผิวหนังและไขมันบริเวณรูขุมขนที่อุดตันมากขึ้น ทำให้มีแหล่งอาหารที่เหมาะสมกับการเพิ่มจำนวนของเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ จึงทำให้ผิวอักเสบและก่อให้เกิดเป็นสิวขึ้น 

4. การอักเสบบริเวณรูขุมขน ในคนที่มีการสะสมของเซลล์ผิวหนัง ไขมัน และเชื้อแบคทีเรีย C.acnes บริเวณรูขุมขนมากขึ้น จะทำให้สิวอุดตันมีขนาดใหญ่ขึ้นและแตกออกสู่ผิวหนังบริเวณข้างเคียง กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ เกิดเป็นสิวอักเสบที่มีอาการปวด บวม และกดเจ็บ อย่างสิวอักเสบและสิวหัวช้างได้

นอกจากปัจจัยภายในร่างกายที่กล่าวไปแล้ว ก็ยังมีปัจจัยภายนอกอีกมากมายที่สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวได้ เช่น

• การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงวัยรุ่น ซึ่งจะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ทำให้เกิดการอุดตันได้ง่ายขึ้น

• กรรมพันธุ์ หากคนในครอบครัวมีประวัติการเป็นสิว ก็มีโอกาสที่จะเป็นสิวได้มากขึ้น

• ความเครียด ทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนบางชนิดที่กระตุ้นการสร้างน้ำมันที่ผิวมากยิ่งขึ้น

• ยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ หรือยาคุมกำเนิด 

• การใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว หรือการล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด

• การทานอาหารบางชนิด  เช่น อาหารที่มีไขมันสูง หรืออาหารแปรรูป ก็ก่อให้เกิดสิวได้เช่นกัน

 

รู้จักสิวตัวร้าย 3 ประเภทที่วัยรุ่นต้องเผชิญ

สิวเป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อยในวัยรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและปัจจัยอื่น ๆ ได้อีกมากมาย โดยในวัยรุ่นส่วนใหญ่แล้วมักจะเจอกับปัญหาสิว 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

สิวอุดตัน 

สิวอุดตัน เป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันของไขมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วในรูขุมขน มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาวหรือสีเดียวกับผิวหนัง มักพบบริเวณหน้าผาก, คาง และแก้ม ถ้าหากไม่ดูแลรักษาให้ดี ก็อาจจะพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบได้

สิวอักเสบ

สิวอักเสบ เป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันของไขมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วในรูขุมขนเช่นเดียวกับสิวอุดตัน แต่มีแบคทีเรียเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เกิดการอักเสบ มีลักษณะเป็นตุ่มแดง บวม และอาจมีหนองอยู่ภายใน มักพบบริเวณแก้ม, คาง และหน้าผาก ซึ่งสิวอักเสบก็มักจะทำให้เกิดความเจ็บปวด และทิ้งรอยแผลเป็นอย่างรอยดำและรอยแดงเอาไว้

สิวหัวช้าง

สิวหัวช้าง เป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรงที่สุด มีลักษณะเป็นตุ่มขนาดใหญ่ สีแดงจัด บวม และเจ็บ มักพบบริเวณแก้ม, คาง และขมับ โดยสิวหัวช้างอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี เนื่องจากทำร้ายชั้นผิวได้ถึงระดับลึก จึงอาจทำให้เกิดรอยดำ และปัญหาหลุมสิวตามมาได้

10 เคล็ดลับปราบสิวให้อยู่หมัด ด้วยการเลี่ยงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดสิว

สิวเป็นเรื่องกวนใจของชาววัยรุ่นหลาย ๆ คนใช่ไหมล่ะ แต่ไม่ต้องกังวลไป! วันนี้เรามี 10 วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณบอกลาสิวได้แบบไม่ยากเลย เพียงแค่หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว เท่านี้ผิวหน้าของคุณก็จะกลับมาสวยใสไร้สิวได้แล้ว 

1.ไม่ล้างหน้าบ่อยเกินไป

หลายคนเข้าใจผิดว่าคนเป็นสิวมักจะมีผิวหน้ามัน จึงคิดว่าการล้างหน้าบ่อย ๆ ระหว่างวันเป็นเรื่องดี เพราะช่วยลดความมันที่ผิวได้ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะการล้างหน้าบ่อย ๆ จะทำให้หน้าของเราแห้งตึงจนทำให้ผิวยิ่งผลิตน้ำมันออกมาเพิ่มอีก ทำให้หน้ายิ่งมันมากกว่าเดิม อีกทั้งยังทำให้ผิวระคายเคืองได้ง่าย และก่อให้เกิดปัญหาสิวได้ในที่สุด 

 

ทั้งนี้การล้างหน้าวันละ 2 ครั้งก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่หากคุณมีผิวมันมาก ๆ จริง ๆ อาจล้างหน้าเพิ่มอีก 1 ครั้งในช่วงบ่ายได้ แต่ไม่ควรล้างหน้าเกิน 3 ครั้งต่อวันนั่นเอง

2.เลี่ยงการสัมผัสผิวหน้าโดยไม่จำเป็น

เนื่องจากมือของเราสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ มามากมาย ซึ่งอาจมีแบคทีเรียสะสมอยู่ การนำมือมาสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น จะเพิ่มโอกาสให้เชื้อแบคทีเรียเข้าไปในรูขุมขน และเกิดการสะสมของแบคทีเรีย จนทำให้เกิดสิวได้

3.งดทานของหวานและนมวัว

การงดทานของหวานและนมวัวอาจเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยลดการเกิดสิวได้ เนื่องจากอาหารทั้งสองชนิดนี้อาจก่อให้เกิดสิวได้ 

• ของหวานส่วนใหญ่มักมีปริมาณน้ำตาลสูง ซึ่งจะกระตุ้นการผลิตอินซูลินและฮอร์โมนบางชนิดที่ส่งผลต่อการเกิดสิวได้ นอกจากนี้น้ำตาลยังทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย จึงยิ่งกระตุ้นให้สิวอักเสบเพิ่มขึ้น ดังนั้นถ้าไม่อยากเป็นสิวเรื้อรัง ก็ควรลดการบริโภคของหวาน เช่น ขนมหวาน เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง และอาหารแปรรูปต่าง ๆ นั่นเอง

• นมวัวมีฮอร์โมนและสารบางชนิดที่อาจกระตุ้นการผลิตน้ำมันในผิวหนังและเพิ่มโอกาสในการเกิดสิวได้ สำหรับคนที่เป็นสิวขึ้นบ่อย ๆ แนะนำให้ลองลดการทานนมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัว เช่น ชีส โยเกิร์ต และไอศกรีม ก็จะช่วยให้ปัญหาสิวค่อย ๆ บรรเทาขึ้นได้ 

4.ไม่นอนดึก

เนื่องจากการพักผ่อนไม่เพียงพออาจทำให้ร่างกายอ่อนแอและส่งผลต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ รวมถึงการควบคุมการผลิตไขมันที่ผิวด้วย ดังนั้นเพื่อให้ผิวมีสมดุลการสร้างน้ำมันจากต่อมไขมันในระดับที่สมดุล จึงควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน

5.พยายามไม่เครียด

เพราะความเครียด อาจส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนและกระตุ้นการเกิดสิวได้ ดังนั้นการหาวิธีจัดการความเครียดที่เหมาะสมกับตนเอง เช่น การออกกำลังกาย การทำสมาธิ หรือการพูดคุยกับเพื่อนสนิท ก็จะช่วยลดความเครียดและลดการเกิดสิวเรื้อรังไปได้นั่นเอง

6.เลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว เช่น ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวแห้งเกินไป หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตัน อาจทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดสิวได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิวของตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

7. เลี่ยงการบีบ แกะ หรือเค้นสิว

การบีบสิวเอง นอกจากจะทำให้สิวอักเสบมากขึ้นแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดรอยแผลเป็นและเกิดการกระจายของเชื้อสิว จึงก่อให้เกิดปัญหาสิวเรื้อรังได้อีกด้วย ดังนั้นหากต้องการกำจัดสิวอุดตัน หรือสิวอักเสบ ก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและกำจัดเชื้อแบคทีเรีย C.acnes อย่างอ่อนโยน หรือปรึกษาแพทย์ผิวหนังจะดีที่สุด

8. เลี่ยงการแต่งหน้าจัด

เพราะการแต่งหน้าจัด โดยเฉพาะการใช้รองพื้นหรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือกลุ่มเครื่องสำอางที่กันน้ำ หากล้างทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ อาจทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวได้ ดังนั้นจึงควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่บางเบา ไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตัน และล้างเครื่องสำอางออกให้สะอาดหมดจดทุกครั้ง จะช่วยลดการเกิดสิวลงได้

9. เลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดจัด

เนื่องจากแสงแดดอาจทำให้ผิวแห้งและกระตุ้นการผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้หน้ามันมากกว่าเดิม ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดจัด และใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป

10.ไม่ควรใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา

การใส่หน้ากากอนามัย อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวได้ เพราะก่อให้เกิดการเสียดสีกับผิวหน้า โดยเฉพาะบริเวณแก้ม คาง และจมูก ทำให้เกิดการระคายเคืองและเป็นสิวได้ นอกจากนี้การใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน ยังทำให้เกิดความอับชื้นบริเวณใบหน้า ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย จึงทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น

ดังนั้นจึงควรเลือกหน้ากากอนามัยที่มีขนาดพอดีกับใบหน้า ไม่ควรหลวมหรือแน่นจนเกินไป สามารถระบายอากาศได้ดี และควรหาจังหวะในการถอดหน้ากากเพื่อพักผิวหน้า ให้ผิวหน้าได้ระบายอากาศ แต่ถ้าจำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานานจริง ๆ ก็ควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยบ่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหน้ากากอนามัยเปียกชื้น หรือสกปรก

สรุป

ปัญหาสิวกวนใจวัยรุ่นดูเหมือนจะจัดการได้ยาก แต่ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด หากคุณทำตามเคล็ดลับที่เราแนะนำไปข้างต้น ก็จะช่วยให้คุณดูแลผิวหน้าได้อย่างถูกต้อง และจัดการกับปัญหาสิวเรื้อรังได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณต้องการตัวช่วยกู้ปัญหาสิวให้ตรงจุดยิ่งกว่าเดิม สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านขายยาวินวินท์แคร์ได้ที่ไลน์ @vinviincare เพื่อรับคำแนะนำในการจัดการปัญหาสิวให้หายขาด และจบปัญหาสิวกวนใจได้อย่างยั่งยืน